วันอังคารที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2552

แจ้งจับ โรคจิต นุสบา กรี๊ด ถูกถ่ายบั้นท้าย

แจ้งจับโรคจิต นุสบากรี๊ด ถูกถ่ายบั้นท้าย (ไทยรัฐ)

         "นุสบา ปุณณกันต์" ควัน ออกหู ถูกหนุ่มโรคจิตแอบถ่ายภาพใต้กระโปรง ขณะเดินชอปปิ้งกลางห้างดัง โร่แจ้งตำรวจ สน.ปทุมวัน ตามรวบตัวได้ จำนนหลักฐานภาพในกล้องขนาดจิ๋ว อ้างเป็นแฟนคลับตัวยง..

        เมื่อ ช่วงเที่ยงวันที่ 8 ธ.ค. ที่ สน.ปทุมวัน เจ้าหน้าที่ตำรวจแถลงข่าวจับกุมตัวชาว จ.นครราชสีมา อายุ 34ปี พร้อมของกลางกล้องถ่ายภาพขนาดเล็กเท่ากับรีโมตรถยนต์ มีภาพถ่ายใต้กระโปรงหญิงสาวหลายราย โดยหนึ่งในนั้นคือ นุสบา ปุณณกันต์ อดีตดารานักแสดงสาวชื่อดัง ซึ่งปัจุบันเป็นภรรยาของ นายพุฒิพงศ์ ปุณณกันต์ กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และ อดีตรองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.)

        นายปรีดา ให้การรับสภาพภาพว่า ได้ แอบถ่ายภาพ นุสบา ขณะเดินชอปปิ้งภายในห้างสรรพสินค้าสยามพารากอน โดยเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของห้าง เป็นผู้พบและนำตัวส่งตำรวจ ทั้งนี้ ผู้ต้องหาให้การว่า ได้ซื้อกล้องแอบถ่ายมาจากประเทศญี่ปุ่น ในราคา 2,400 บาท มีขนาดเล็กเท่ากับรีโมตรถยนต์ ตำรวจได้ถ่ายข้อมูลออกจากเครื่องมาดู พบว่าเป็นภาพแอบถ่ายใต้กระโปรงของหญิงสาวหลายราย โดยมีภาพของ นุสบา จึงได้ติดต่อให้อดีตดาราสาวมาชี้ตัวยืนยัน

        โดยเมื่อ นุสบา เห็นภาพก็ยืนยันว่า เป็นภาพของตนเองจริง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงปรับ นายปรีดา โฆษธรรมกุล เป็นเงิน 500 บาท ข้อหาล่วงละเมิดในที่สาธารณะ ก่อนปล่อยตัวไป โดยที่นายปรีดา เผยว่า ตัวเขาเป็นแฟนคลับของ นุสบา ด้วย



ขอขอบคุณข้อมูลจาก

ขอขอบคุณภาพประกอบจาก กรุงเทพธุรกิจ เซ้งกิจการ
thai house webboard
thailand house webboard
thai realtor
thailand house for sale bangkok
house for sale thailand
thai property
thai real estate
real estate investment
ban
baan
house thailad
home for sales
home for rent
bangkok properties
thailand apartment
asungha
second hand home
Thailand real estate agent
Thailand real estate broker
property
free advertising
house classified
house webboard
house classified
commercial
retail
selling
lease
buy
buying
condominium
vacant land
mansion
Agency
auction
single house
commercial building
service apartment
town house
Thai web classified
classified
Free advertising
Real Estate
home
house
housing
thailandhome
thailandhouse
Ban
Baan Thai
condo
condominuim
apartment
building
rent
renter
land
furniture

พิงกี้ ไม่เกาเหลา แอฟ ยันพูดจริงเรื่อง สงกรานต์

พิงกี้

พิงกี้ - สาวิกา ไชยเดช



พิงกี้ ไม่เกาเหลา แอฟ ยันพูดจริงเรื่อง สงกรานต์ (ไทยรัฐ)

          เขย่าวงการออแกนไนซ์เมื่อสองสาวพิงกี้แอฟต้องมาจ๊ะเอ๋กันอย่างจังงานนี้ต่างฝ่ายต้องแยกห้องกันวุ่น ...

          เป็นเรื่องเม้าท์น้ำลายกระจายว่า พิงกี้ - สาวิกา ไชยเดช ไม่ยอมใช้ห้องแต่งตัวร่วมกับ แอฟ - ทักษอร ในวันร่วมขบวนรถบุปผชาติ เพราะทำใจเรื่อง สงกรานต์ เตชะณรงค์ ไม่ได้ เมื่อเจอนางเอกตาคม พิงกี้ จึงขอถามแบบเปิดอก


          พิงกี้ : กับพี่แอฟไม่ได้เจอกันเลยค่ะ ถึงเจอก็ไม่เป็นอะไร กี้รู้จักและพี่เค้าเป็นพี่สาวเราอยู่แล้ว

  ในข่าวเขียนบอกว่ากี้สั่งแยกห้องกันด้วย

          พิงกี้ : โน (ลากเสียงหน้ายิ้มแฉ่ง) ไม่ค่ะ จริง ๆ แล้วเราไปแต่งหน้าที่กรมตำรวจ ไม่ได้ เจอกัน กี้แต่งกับโม

  รู้สึกยังไงบ้างที่โดนจับตามอง

          พิงกี้ : ไม่น่าจะเกี่ยวกันแล้ว กี้ไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับทางนั้น คงไม่ต้องถามกี้อีกแล้วว่ามันมีเรื่องอะไร

แอฟ ทักษอร

แอฟ - ทักษอร



  ก่อนหน้านี้มีโอกาสเจอพี่แอฟบ้างมั้ย

          พิงกี้ : กี้เคยรู้จักพี่เค้าอยู่แล้ว เพราะพี่เค้ารู้จักกับพี่อั้ม สมัยก่อนรู้จักกันค่ะ

  ถ้าต้องมาเจอหน้ากัน คุยกันได้สนิทใจมั้ย?

          พิงกี้ : จริง ๆ ไม่ได้สนิทแต่คุยได้ แต่ไม่ได้เจอกันนานแล้ว แต่ไม่เป็นไร สำหรับกี้ไม่เป็นไร เจอกันทักทายได้

  หนักใจที่ถูกโยงเกาเหลากันรึป่าว?

          พิงกี้ : ด้วยข่าวทำให้เราเกาเหลากัน แต่ตัวจริงกี้ยังไม่มีโอกาสได้คุยกับพี่เค้า เลยไม่มีอะไรแบบนั้น

  กับสงกรานต์มีโอกาสได้เจอกันมั้ย?

          พิงกี้ : ไม่ได้เจอ และไม่ต้องมาถามกี้แล้ว เพราะกี้ไม่ได้เกี่ยวอะไรแล้ว

  วันนึงไปงานต้องเจอกันสามารถมั้ย?

          พิงกี้ : สามารถนะ ถ้าเกิดมีคนจ้างให้ไปทำหน้าที่เต็มที่เลย เพราะมีคนจ้างให้จะให้หนูทำอะไร หนูทำได้ค่ะเพราะเราเป็นนักแสดง

  มีหนุ่ม ๆ เข้ามาจีบมั้ย?

          พิงกี้ : ไม่มี ตอนนี้ไม่มีเลยจริง ๆ 4 เดือนมาแล้ว ไม่มีใคร ไม่รู้จะไปหาทำไม ไม่ได้รีบร้อน แต่ ไม่เข็ดนะ อะไรที่มันแย่ ๆ ไปคิดว่าเป็นเรื่องที่ทำให้เราเข้มแข็งแล้วกัน ไม่จำเป็นต้องเสียใจ

  ด้วยการตัดสินใจครั้งที่แล้ว เร็วไปจะมีผลต่อครั้งต่อ ๆ ไป จะตัดสินใจเปิดใจกับใครมั้ย?

          พิงกี้ : กี้ไม่ได้ ตัดสินใจเร็ว แต่กี้พูดจริง ไม่โกหกใคร ฉะนั้น การที่กี้พูดจริงกับใคร ไปมันเป็นความรู้สึกดี ๆ ที่กี้ให้ ทุกคน กี้คิดว่าชีวิตเราจะทำอะไรรีบ ๆ ทำไปเหอะ ไม่รู้ตายเมื่อไหร่ ตอนนี้ใครเข้ามาศึกษา หาคนดี ๆ เข้ากับเรา ให้ความไว้วางใจ เชื่อใจกันได้ ต้องหา อาจจะยากหน่อย



ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก

บ้านมือสอง
สำนักงาน
โฮมออฟฟิศ
สวนเกษตร
สวนผลไม้
ไร่นา
ขาย
ให้เช่า
ขายหรือให้เช่า
เซ้ง
บริการ
ซื้อ
ประกาศอื่นๆ
อสังหาริมทรัพย์
ประเมินหลักทรัพย์
บ้าน เดี่ยว
บ้านพร้อมที่ดิน
โครงการบ้าน
ซื้อขายบ้าน
ลงโฆษณาฟรี
ลงโฆษณา
ลงประกาศ
ลงโฆษณา
ประกาศขาย
ลงประกาศขาย
แบบบ้าน
ลงโฆษณาฟรี
ลงประกาศฟรี
โฆษณาบ้าน
โฆษณาขายบ้าน
บ้าน
ที่ดิน
ที่ดิน
ขายบ้านมือสอง
ขายที่
ของมือสอง
มือ2
ที่ดิน
ขายที่
ซื้อขายที่ดิน
ซื้อที่ดิน
ซื้อที่
ขายที่
หาบ้าน
ค้นหาบ้าน
ซื้อที่ดิน
ซื้อบ้าน
ซื้อบ้านมือสอง
โฆษณาขายบ้าน
ประกาศขายที่ดิน
โฆษณาขายที่ดิน
ประกาศขายบ้าน

คลาวเดีย เปิดใจเหตุหย่าสามี เพราะทะเลาะกันถี่

คลาวเดีย จักรพันธุ์

คลาวเดีย จักรพันธุ์



คลาวเดีย ชี้ทะเลาะถี่จึงหย่าเมินพูดถูกทำร้าย (สยามดารา)

          คลาวเดีย จักรพันธุ์ แจงเหตุเลิกสามีเพราะทะเลาะถี่ และมองต่างมุม ยันไร้มือที่สาม งดตอบข่าวลือถูกทำร้ายร่างกาย เผยตอนนี้มีความสุขกับชีวิตโสด เหตุการณ์ที่ผ่านมาเป็นประสบการณ์อย่างหนึ่งในชีวิต ลั่นพร้อมกลับเข้าทำงานในวงการบันเทิง

          แม้จะออกมายอมรับว่าเลิกรากับสามี "แป๋ม" อรรคพันธ์ วิจิตรานนท์ ไปเมื่อปลายสัปดาห์ก่อน แต่เราก็ยังไม่ได้ทราบสาเหตุที่แท้จริงจากปากสาว คลาวเดีย จักรพันธุ์ โดยที่ผ่านมาเจ้าตัวอ้างว่าไม่พร้อมที่จะพูด และถึงแม้จะเดินทางไปร่วมงานบวชของ "กอล์ฟ" กริช หิรัญพฤกษ์ แล้วเจอสื่อมวลชนรุมซักถาม แต่เธอก็ยังไม่ให้รายละเอียดใด ๆ

          ล่าสุด เมื่อวันอังคารที่ 8 ธันวาคม คลาวเดีย ได้เผยเรื่องดังกล่าวแบบหมดเปลือก ในขณะที่เดินทางไปร่วมงาน ซีฟู้ด เฟสติวัล ที่เซ็นทรัล พัทยา บีช ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สาวคลาวเดียมีสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส คาดว่าน่าจะเริ่มทำใจได้ และหายจากอาการเศร้าแล้ว

  ตกลงว่าเลิกกันเพราะสาเหตุ

          คลาวเดีย
: เราอาจจะเรียนรู้กันเร็วเกินไป แบบปีเดียวแล้วก็แต่งงานเลย แต่ว่ามันก็คือคนสองคนมันมองโลกไม่เหมือนกัน อยู่ด้วยกันปุ๊บมันก็มีปัญหาเกิดขึ้นแล้ว ก็ทะเลาะกันบ่อย สุขภาพจิตทั้งคู่มันก็ไม่ดี ก็เลยคิดว่าเราแยกกันดีกว่า

  ไม่เกี่ยวกับมือที่สามเหรอ

          คลาวเดีย : ไม่มีแน่นอน อันนี้ก็เป็นเรื่องของคนสองคน ไม่เกี่ยวกับมือที่สาม เพราะว่าเราสองคนก็แย่แล้ว (หัวเราะ)

  ตอนนี้หย่ากันเรียบร้อยแล้วใช่ไหม

          คลาวเดีย : ค่ะ ก็แยกกันได้สักพักแล้วค่ะ ตัดสินใจค่อนข้างนานเหมือนกัน แต่ยังคุยกันบ้าง ตอนนี้เราเลิกกันด้วยความเข้าใจ แบบว่าเราเข้ากันไม่ได้ แต่ก็พูดคุยกันอยู่บ้าง

  คุยอะไรกันบ้าง

          คลาวเดีย : ขอไม่บอกรายละเอียดแล้วกันนะ มันเป็นเรื่องเซนซิทีฟ เอาเป็นว่าทั้งคู่ตัดสินใจกันเอง

  ตอนนี้ก็เป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน

          คลาวเดีย : ใช่ค่ะ ก็เป็นเพื่อน เป็นพี่ เป็นน้อง มีอะไรปรึกษา ไม่ได้จบกันด้วยการเกลียดกัน

  ก่อนตัดสินใจพ่อแม่สองฝ่ายว่าไง

          คลาวเดีย : ทางนั้นเราไม่ทราบนะคะ แต่ทางด้านเราคุณแม่ก็ให้กำลังใจ ซึ่งคุณแม่คลาวเดียเค้าจะแบบว่า ถ้าคลาวเดียมีความสุขยังไง เค้าก็มีความสุขอย่างนั้น

  กังวลไหมกับคนรอบข้าง

          คลาวเดีย : กังวลนะ เพราะว่ากลัวมันจะเป็นเรื่องใหญ่ อยากให้ทุกคนเข้าใจ บางทีก็ยังไม่พร้อมที่จะตอบอะไร คือมันไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ ค่ะ มันไม่เหมือนอารมณ์เลิกกับแฟน คือมันเป็นเรื่องที่ค่อนข้างใหญ่พอสมควร ในชีวิตของคลาวเดียนะคะ เพราะฉะนั้น ก็เลยตัดสินใจนานมาก แต่ว่ามันก็กลับมาสรุปที่ตรงนี้ เราคิดว่าตรงนี้มันเป็นสิ่งทีดีที่สุดสำหรับเรา

  มีกระแสข่าวว่าเราถูกทำร้ายร่างกาย

          คลาวเดีย : (หัวเราะ) อ๋อ พี่มันแรงนิดนึงนะ เอาเป็นว่าขอไม่ตอบดีกว่า คือคนเรามีปัญหาทะเลาะกันบ้าง ทะเลาะบ่อยช่วงปีหลัง ๆ

  แสดงว่าปีหลัง ๆ มีโดนทำร้ายหรือเปล่า

          คลาวเดีย : ขอไม่ตอบได้ไหม มันแรงไป คือมันเป็นเรื่องส่วนตัวค่ะ เอาเป็นว่าความคิดของเราไปคนละมุมมองดีกว่า

  เหตุการณ์ครั้งนี้สอนอะไรเราบ้าง

          คลาวเดีย : ก็สอนเยอะนะคะ ให้เราเป็นผู้ใหญ่ขึ้น ให้เราตั้งสติ ซึ่งครั้งนี้เราก็อยากทำงาน ทำงาน ทำงานค่ะ ช่วยคุณแม่ทำงานแล้วก็คลาวเดียก็รักงานในวงการอยู่แล้ว ชอบงานแสดง เป็นอะไรที่อยากทำในชีวิตเลย เพราะฉะนั้น ผู้จัดคนไหนมีบทเหมาะ ๆ ก็ติดต่อมาได้นะคะ บทอะไรก็ได้ค่ะ ได้อยู่แล้ว เพราะว่าคลาวเดียก็พร้อมที่จะทำงานเต็มที่แล้วตอนนี้ ซึ่งตอนนี้เราก็อยู่คนเดียว

  คิดว่าการแต่งงานที่ผ่านมา เป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาดหรือเปล่า

          คลาวเดีย : อ๋อ ไม่นะคะ เพราะว่า ณ จุดนั้นเราก็รักกัน แล้วก็อยากใช้ชีวิตร่วมกัน ถือว่าเป็นประสบการณ์ชีวิตมากกว่า สำหรับต่อไปในอนาคต คือเราต้องรู้จักกันมากกว่านี้ก่อน

  แล้วชีวิตโสดตอนนี้เป็นไงบ้าง

          คลาวเดีย : ตอนแรกก็แย่เหมือนกัน แต่ว่าตอนนี้ก็มีความสุข เพราะอย่างน้อยเราก็ออกมาด้วยความเข้าใจกัน ไม่ได้ทะเลาะกัน เราก็มีปรึกษากันได้อยู่แล้ว ไม่ได้แบบว่าเศร้าอะไรมากมาย


ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก

บ้าน
อพาร์ทเมนท์
บ้านเดี่ยว
ซื้อขาย
บ้าน
จำนอง
ขายฝาก
อสังหา
เช่า
ซื้อบ้าน
โฆษณาฟรี
บ้านเดี่ยว
ขายที่ดิน
ที่ดินและบ้าน
คอนโด
ขายที่
ที่ดินเปล่า
ค้นหาบ้าน
แบบบ้าน
หาบ้าน
ที่ดินและบ้าน
บ้านเดี่ยว
ทาวน์เฮ้าส์
บ้านแฝด
คอนโด
ขาย
สินเชื่อบ้าน
โครงการบ้าน
อพาร์ทเมนท์ทั้งหลัง
บ้านเช่า
ซื้อบ้าน
อพาร์ทเมนท์
หอพักทั้งหลัง
ที่ดินบ้าน
หอพัก
บ้านจัดสรรโครงการ
ที่ดิน
ตึกแถว-อาคารพานิชย์
บ้านพักตากอากาศ
โรงแรม
รีสอร์ท
เกสต์เฮ้าส์
บังกาโล
ที่ดินชายทะเล
สปา
ขาย
ประกาศขายที่
เซ้งกิจการ
ที่ดินและบ้าน
บ้าน ที่ดิน
ร้านอาหาร
โรงงาน
กิจการ
ขายบ้านมือสอง
มือ 2
มือสอง
ที่ ดิน

วันจันทร์ที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

เปิดหัวใจช้ำ! แม่วิศวกร ที่ถูกกัมพูชาจับ

แม่ของ ศิวรักษ์  ชุติพงษ์ วิศวกรชาวไทยที่ถูกกัมพูชาจับ
แม่ของ ศิวรักษ์  ชุติพงษ์ วิศวกรชาวไทยที่ถูกกัมพูชาจับ

ศิวรักษ์  ชุติพงษ์ และครอบครัว วิศวกรชาวไทยที่ถูกกัมพูชาจับ
ศิวรักษ์  ชุติพงษ์ และครอบครัว วิศวกรชาวไทยที่ถูกกัมพูชาจับ

ศิวรักษ์  ชุติพงษ์ วิศวกรชาวไทยที่ถูกกัมพูชาจับ
ศิวรักษ์  ชุติพงษ์ วิศวกรชาวไทยที่ถูกกัมพูชาจับ

 

"แม่วิศวกร"ห่วงลูกชายหายใจติดขัด วอนรัฐบาลไทยนำตัวกลับเร็วสุด เชื่อมั่นเป็นคนดีไม่มีวันทำผิด (มติชนออนไลน์)

        แม่วิศวกร "ศิวรักษ์" ที่ถูกทางการเขมรจับ เป็นห่วงสุขภาพโรคภูมิแพ้และระบบทางเดินหายใจ วอนรัฐบาลไทยช่วยเหลือกลับมาเร็วที่สุด เชื่อลูกชายเป็นคนดี ไม่มีทางทำผิดอย่างที่ถูกกล่าวหา ปัดไม่รู้สนิทเลขานุการเอก ทูตประจำพนมเปญ เผยมีเรื่องอะไรลูกก็เล่าให้ฟังหมด

        เมื่อวันที่ 16 พ.ย. นางสิมารักษ์ ณ นครพนม อายุ 57 ปี  ครูชำนาญการณ์พิเศษ หัวหน้าแผนกพาณิชย์การ วิทยาลัยเทคนิคนครราชสีมา ซึ่งเป็นมารดาของนายศิวรักษ์  ชุติพงษ์ อายุ 31 ปี พนักงานบริษัท กัมพูชาแอร์ ทราฟฟิคเซอร์วิส หรือ CATS ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ บริษัทสามารถเทเลคอม  ที่ถูกทางการกัมพูชาจับกุมตัว โดยกล่าวหาลอบสำเนาเอกสารเกี่ยวกับกำหนดการเดินทางโดยเครื่องบินของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กับสมเด็จฮุน เซน นายกรัฐมนตรี กัมพูชา เมื่อวันที่ 13 พ.ย.  ที่ผ่านมา  กล่าวว่า  เป็นห่วงสุขภาพร่างกายของลูกชายที่มีโรคประจำตัวเป็นโรคภุมิแพ้และโรคหายใจ ติดขัดเป็นบางช่วง

        ทั้งนี้ นางสิมารักษ์ กล่าวว่า หลังทราบข่าวนายศิวรักษ์ถูกจับก็รู้สึกช็อคและเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิด ขึ้นอย่างมาก เพราะไม่คิดไม่ฝันมาก่อน เพราะรู้ดีว่าลูกของตนเองเป็นเด็กดี เป็นคนสุขุมเรียบร้อย มีคุณธรรม เป็นที่รักใคร่ของบิดา-มารดา ญาติสนิท และเพื่อนฝูงทุกคนทั้งในและต่างประเทศ อีกทั้งยังเป็นคนที่มีความกตัญญูกตเวที ส่งเงินมาให้ตนเองได้ใช้จ่าย ผ่อนรถผ่อนบ้าน เหมือนกับเป็นเสาหลักของครอบครัว ไม่เคยสร้างปัญหาใด ๆ ให้เกิดขึ้นกับครอบครัวหรือผู้อื่น ซึ่งตนและบุตรชายคนนี้จะสนิทกับมาก สามารถพูดคุยกันได้ทุกเรื่อง โดยลูกชายจะติดต่อพูดคุยทางโทรศัพท์กับตนเอง เป็นประจำทุกอาทิตย์ ล่าสุดลูกชายได้เดินทางมาเยี่ยมและผักผ่อนอยู่กับตนเอง เมื่อวันที่ 31 ส.ค. ที่ผ่านมา และเพิ่งเดินทางกลับไปทำงานเมื่อวันที่ 9 พ.ย. โดยบอกว่าจะเดินทางไปทำงานที่ชายแดนไทย – ลาวแต่ไม่ได้บอกรายละเอียดของงาน จากนั้นก็ขาดการติดต่อจนกระทั่งทราบข่าวว่า ลูกชายของตนเองถูกจับตัวไปดังกล่าว

        นางสิมารักษ์ กล่าวอีกว่า เหตุการณ์อย่างนี้คงไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น โดยเฉพาะกับลูกของตนเอง แต่เมื่อเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นมาแล้ว ตนเองก็อยากให้ลูกชายพ้นข้อกล่าวหาทุกอย่าง และอยากให้กลับมาบ้าน ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตามอยากให้กลับมาให้เร็วที่สุด เชื่อมั่นว่า นายศิวรักษ์เป็นคนดีและจะไม่ทำอะไรที่ไม่ถูกต้องอย่างแน่นอน สำหรับสาเหตุที่ลูกชายของตนเองถูกจับตัวไปนั้น ตนเองไม่สามารถจะบอกได้ว่าสาเหตุเกิดจากอะไร เพราะลูกชายก็ไม่เคยบอกหรือเล่าว่ามีปัญหาเกี่ยวกับหน้าที่การงานใด ๆ ส่วนเรื่องของการเมืองปัญหาความขัดแย้งระหว่างประเทศนั้น คงไม่มีแน่เพราะลูกชายของตนเองไม่ฝักใฝ่ทางการเมืองอยู่แล้ว ดังนั้นในฐานะ ของผู้เป็นแม่อยากฝากวิงวอนไปยังรัฐบาลหรือผู้ที่ดูแลทางด้านนี้  คนไทยคนหนึ่งที่ไปประสบปัญหาในต่างแดน ให้ทำอย่างไรก็ได้ช่วยกันนำตัวลูกชายของตนเองกับมาให้เร็วที่สุด โดยเฉพาะหน่วยงานที่ลูกชายของตนเองทำงานอยู่ ช่วยดูแลช่วยเหลือบุตรชายของตนเองด้วย เพราะโดยส่วนตัวแล้วเชื่อว่าลูกเป็นคนดี และจะไม่มีวันทำความผิดอย่างที่ถูกกล่าวหาแน่นอน

        ส่วนกรณีที่ว่า นายศิวรักษ์  มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับนายคำรบ ปาลวิวัฒน์ไชย เลขานุการเอก ประจำสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงพนมเปญ นั้น นางสิมารักษ์ฯ กล่าวว่า ในเรื่องนี้ตนเองไม่ทราบจริง ๆ เพราะในเรื่องของการทำงานตนเองจะไม่เข้าไปก้าวก่าย เนื่องจากว่า ตัวลูกชายเองจะติดต่อและเล่าเรื่องราวต่าง ๆ ให้ฟังเสมอ ก็ไม่เห็นว่าจะมีปัญหาอะไรและลูกชายเองก็เล่าทุกอย่างให้ตนเองฟังโดยตลอด ก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องไปซักถามอะไรกับใครที่ไหน

        สำหรับ โรคภูมิแพ้เรื้อรังและปัญหาระบบทางเดินหายใจ ของนายศิวรักษ์นั้น นับเป็นโรคประจำตัว ซึ่งเป็นโรคเดียวกันกับบิดาที่เสียชีวิตไปเมื่อปี 2538 ที่ผ่านมา และได้มีการพูดคุยกันว่าจะทำการผ่าตัดรักษาอาการในเร็ววันนี้  แต่ต้องรอให้บุตรชายมีเวลาว่างจากงานเสียก่อน ซึ่งตรงจุดนี้ยิ่งทำให้ความกังวลและเป็นห่วงบุตรชายที่ถูกจับตัวไปโยไม่รู้ ชะตากรรมเพิ่มขึ้น และเมื่อวันที่ 15 พ.ย. ตนเองได้มีโอกาสเห็นหน้าตาของลูกผ่านจอทีวีแม้จะเป็นแค่แว๊บเดียว  แต่ก็รู้ได้ทันทีว่าลูกชายของตนเองกำลังมีความทุกข์อย่างมาก ทุกข์ทั้งตัวเอง และต้องทุกข์กับความเป็นห่วงกับความรู้สึกของแม่ เพราะรู้ว่าลูกชายเป็นคนที่แคร์เป็นห่วงความรู้สึกของแม่มากที่สุด เนื่องจากตนเองก็มีโรคประจำตัวหลายโรค ทั้งโรคเครียด ไมเกรนและความดันโลหิตสูง

        "หากฝากคำพูดนี้ไปถึงลูก ได้ อยากบอกกับลูกว่า  คิดถึง อยากคุยอยากพูดด้วย  อยากบอกว่าไม่ต้องเป็นห่วงแม่เรื่องสภาพจิตใจแม่เข้มแข็ง ห่วงก็แต่ตัวลูกเท่านั้น แม่ห่วงลูกมากกว่า  อย่างไรเสียคิดว่าทางรัฐบาล หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็คงจะดูแลช่วยเหลือเอาตัวลูกกลับมาโดยเร็วที่ สุด"  นางสีมารักษ์ฯ กล่าว

        สำหรับประวัติ นายศิวรักษ์ ชุติพงษ์  อายุ 31 ปี เชื่อเล่นเต๋า เกิดวันที่ 1 ก.ค.2521 บิดาชื่อนายสุวิทย์ ชุติพงษ์ อดีตผู้อำนวยการสร้างภาพยนตร์ ปัจจุบันถึงแก่กรรมด้วยโรคอาการหายใจขาดช่วง(ไหลตาย) ตั้งแต่ปี 2538 มารดาชื่อนางสิมารักษ์ อายุ 57 ปี  ครูชำนาญการณ์พิเศษ หัวหน้าแผนกพาณิชย์การ วิทยาลัยเทคนิคนครราชสีมา  

        ส่วนที่อยู่ตามบัตรประจำตัวประชาชน บ้านเลขที่ 546/2 ถ.สุรนารี อ.เมือง จ.นครราชสีมา  จบการศึกษาระดับปริญญาตรีคณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาโทรคมนาคม มหาวิทยาลัยสุรนารี เมื่อปี พ.ศ. 2541 เข้าทำงานใน บ.สามารถเทเลคอมเมื่อปี 2542 หลังจากทำงานครบ 2 ปี ถูกส่งตัวไปปฏิบัติงานที่ประเทศกัมพูชา เนื่องจากยังไม่มีพันธะทางครอบครัว


ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก

 



ทักษิณ ขู่ไม่รู้เสื้อแดง ทนได้นานแค่ไหน

พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร

พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร



ทักษิณ ขู่ไม่รู้เสื้อแดง ทนได้นานแค่ไหน  (ไทยรัฐ)

         
พ. ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ทวิตเตอร์คร่ำครวญทำอะไรก็ผิด ไม่รู้จะขอร้องให้คนเสื้อแดงอดทนสันติไปได้อีกสักกี่น้ำ จิกรัฐบาลส่งเสริมร้องเพลงชาติตอนชักธงลง เสียฮวงจุ้ย พร้อมเตรียมแจงเรื่องกัมพูชา 20.30 น. วันนี้ ...

          พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร โอดครวญผ่านทวิตเตอร์ หลังการเดินทางไปประเทศกัมพูชา ถูกหลายฝ่ายโจมตีเรื่องทรยศชาติ โดยกล่าวว่า " แผ่นดินเกิดไม่ให้เหยียบ แผ่นฟ้าไม่ให้บินผ่าน หนังสือเดินทางไม่ให้ถือ เงินหามาสุจริตไม่ให้ใช้ ยศพระราชทานจะเอาคืน เครื่องราชฯจะยึด ชีวิตก็จะไม่ไว้ จะเดินทางไปเยี่ยมเพื่อนก็รังควาน จะไปทำมาหาเลี้ยงชีพก็จะไล่ล่า ได้รับเกียรติจากประเทศอื่นก็บอกว่าขายชาติ พูดปกป้องเจ้านายก็ว่าไม่จงรักภักดี ไม่ป่วยก็บอกว่าเป็นมะเร็ง มีคนมาเยี่ยมก็หาว่าเป็นกิ๊ก อยู่ดูไบมีระเบิดเมืองไทยก็หาว่าเป็นคนทำ ต่อสู้หาความเป็นธรรมอย่างสันติก็หาว่ารุนแรง สมกับที่เขาว่า "พวกมึงทำอะไรก็ถูก พวกกูทำอะไรก็ผิด" แล้วเราจะอยู่กันอย่างไรจะสันติได้อีกกี่น้ำผมจะขอร้องให้ คนเสื้อแดงอดทนได้อีกนานแค่ไหนไม่รู้" 

          นอกจากนี้้ พ.ต.ท.ทักษิณ​ยังได้พูดถึงโครงการไทยเข้มแข็งของรัฐบาลที่ให้ทุกจังหวัดร้องเพลงชาติ ในเวลา 18.00 น. ว่า "ตอนนี้รัฐบาลนี้เขากำลังส่งเสริมให้คนร้องเพลงชาติตอนชักธงลงครับ ผมว่าเสียฮวงจุ้ยหมด จะร้องให้ไทยรุ่งเรืองน่าจะชักขึ้น"  

          ทั้งนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ​ ยืนยัน จะจัดรายการออนไลน์ talk around the world ผ่านทาง เว็ปไซด์ thaksinlive.com ในเวลา 20:30 ถึง 21:30 วันนี้ 17 พฤศจิกายน 2552 แน่นอน โดยตั้งใจจะคุยเรื่องเศรษฐกิจและเรื่องกัมพูชา เป็นประเด็นสำคัญ


ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก



ปูนบำเหน็จ ร.ต.อ.เหยื่อแก๊งค้ายานรก เป็น พล.ต.ท.

ร.ต.อ.อาทิตย์

ร.ต.อ.อาทิตย์ บุบผา


แก๊งค้ายายิงร.ต.อ.หัวหน้าชุดล่อซื้อดับ (คมชัดลึก)

          พล. ต.ท.พงศพัศ  พงษ์เจริญ  ผู้ช่วย ผบ.ตร.(บร11) ในฐานะโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า จากเหตุการณ์แก๊งค้ายานรกเหิม กระหน่ำยิงใส่ตำรวจชุดล่อซื้อโรงพักหัวหมาก คมกระสุนพุ่งเจาะหัว ร.ต.อ.อาทิตย์ บุบผา ฝังในเสียชีวิต พล.ต.อ.ปทีป  ตันประเสริฐ  รรท.ผบ.ตร.  มีความเสียใจและห่วงใยต่อครอบครัวในการจากไปของ ร.ต.อ.อาทิตย์ โดย เบื้องต้น สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ปูนบำเหน็จ 7 ขั้น  5 ชั้นยศ  เลื่อนยศจาก "ร.ต.อ."  เป็น "พล.ต.ท."  พร้อมมอบเงินช่วยเหลือจากมูลนิธิข้าราชการตำรวจ จำนวน  500,000.บาท,  เงินฌาปนกิจสงเคราะห์ข้าราชการตำรวจ   500,000 บาท

          นอกจากนี้ ยังมีเงินช่วยเหลือจากสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ปปส.) จำนวน  400,000.บาท  รวมแล้วไม่ต่ำกว่า 1,400,000 บาท   โดยศพของ ร.ต.อ.อาทิตย์ บุบผา ตั้งบำเพ็ญสวดพระอภิธรรมศพที่วัดตรีทศเทพ ศาลา 5/1  เป็นเวลา  7  วัน  และจะได้ดำเนินการขอพระราชทานเพลิงศพให้เป็นกรณีพิเศษต่อไป

          ทั้งนี้ เหตุเกิดเมื่อเวลา 04.00 น. วันที่ 15 พฤศจิกายน ร.ต.ท.ทรงวุฒิ เทพมณี พนักงานสอบสวน สน.บางชัน รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ รพ.เกษมราษฎร์ สุขาภิบาล 3 ถนนรามคำแหง แขวงและเขตสะพานสูง กทม. ว่า มีเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.หัวหมาก ถูกคนร้ายแก๊งค้ายาเสพติดยิงได้รับบาดเจ็บสาหัส และเสียชีวิตภายหลังนำส่งโรงพยาบาล จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้น และประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.หัวหมาก และ บก.น.4 แล้วรุดไปสอบสวน

          พ.ต.อ.วัฒนา ยี่จีน ผกก.สน.หัวหมาก เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.หัวหมาก นำโดย ร.ต.อ.อาทิตย์ บุบผา รอง สว.สส.สน.หัวหมาก และเป็นหัวหน้าชุดเข้าไปล่อซื้อยาเสพติดประเภทหนึ่ง (ยาไอซ์) ได้รับจากสายว่าจะมีการส่งมอบของจำนวนมากเวลา 23.30 น. ภายในซอยรามคำแหง 127 จึงนำกำลังเข้าไปซุ่มอยู่บริเวณจุดดังกล่าว กระทั่งถึงเวลานัดหมาย คนร้ายเป็นชาย 2 คน นั่งรถแท็กซี่สีเขียวเหลือง ไม่ทราบยี่ห้อและรุ่น ทะเบียนไม่ทราบหมวดอักษร 9454 กรุงเทพมหานคร ขับเข้ามายังจุดนัดหมาย ก่อนจะส่งมอบยาให้สายไม่ต่ำกว่า 1 กก. ร.ต.อ.อาทิตย์ จึงแสดงตัวเพื่อเข้าจับกุม แต่ขณะที่กำลังเข้าชาร์จตัวนั้น คนร้ายไหวตัวทันใช้อาวุธปืนขนาด 11 มม. ยิงสวนใส่กลุ่มตำรวจและถูก ร.ต.อ.อาทิตย์ บุบผา เข้าที่กกหูขวากระสุนฝังใน ก่อนที่คนร้ายจะใช้รถแท็กซี่คันดังกล่าวขับหลบหนีมุ่งหน้าไปทางมีนบุรีอย่าง รวดเร็ว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงประสานฝ่ายสืบสวน สน.หัวหมาก และ บก.น.4 รวมทั้งเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ใกล้เคียงช่วยสกัดจับ

          "หลังจาก ร.ต.อ.อาทิตย์ บุบผา ถูกยิง ลูกน้องก็ช่วยกันนำส่งโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ สุขาภิบาล 3 ซึ่งเป็นโรงพยาบาลใกล้เคียงที่สุด แต่สุดท้ายเราก็ต้องสูญเสียตำรวจฝีมือดีจากการปฏิบัติหน้าที่ล่อซื้อยาไอ ซ์ครั้งนี้ ที่ผ่านมา ร.ต.อ.อาทิตย์ บุบผา อยู่ในชุดคลี่คลายคดีฆ่าข่มขืนพนักงานโรงแรมที่ป้ายรถเมล์ ตรงข้ามวัดศรีบุญเรือง และคลี่คลายทหารเกณฑ์ควงอาวุธสงครามหวังจะไปปล้นทรัพย์ โดย ร.ต.อ.อาทิตย์ บุบผา ซึ่งย้ายจากงานด้านสอบสวนมาอยู่งานสืบสวนตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2551 ล้วนแล้วแต่คลี่คลายคดีใหญ่ ๆ ทั้งนั้น จากนี้ไปจะได้เสนอปูนบำเหน็จตามระเบียบของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ" พ.ต.อ.วัฒนา กล่าว

          ด้าน นางประภาพรรณ เดชะเทศบุปผา อายุ 27 ปี ภรรยา ร.ต.อ.อาทิตย์ อยู่ในอาการเศร้าโศก กล่าวทั้งน้ำตาว่า เพิ่งจะแต่งงานได้เพียงปีเศษ ปกติสามีเป็นคนจริงจังกับงาน ค่อนข้างบ้าระห่ำ อาจหาญ แต่ไม่ค่อยจะบอกตนว่าไปทำงานอะไรมาบ้าง สามีเข้าเวรตั้งแต่บ่ายวันที่ 14 พฤศจิกายน กระทั่งเวลาประมาณสี่ทุ่มครึ่ง ตนโทรศัพท์ไปหาสามี ซึ่งก็บอกว่าวันนี้มีงานใหญ่ สายรายงานมาแล้ว แต่ก็ไม่ได้ซักถามอะไรเพราะเข้าใจว่าทำงานอยู่ ทราบเพียงว่างานจะเริ่มประมาณห้าทุ่มเศษ กระทั่งเวลาประมาณเที่ยงคืนเศษ ลูกน้องของสามีโทรศัพท์มาบอกว่า สามีได้รับบาดเจ็บขาหักรักษาตัวที่โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ สุขาภิบาล 3 ให้รีบมาดู ตนพร้อมญาติจึงรีบเดินทางมาที่โรงพยาบาล เมื่อมาถึงก็ทราบว่าสามีเสียชีวิตแล้ว เพราะถูกยิงเข้ากกหูขวากระสุนฝังในจากการปฏิบัติหน้าที่ล่อซื้อยาเสพติด เมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา

          " ขณะนี้ตนยังรู้สึกทำใจไม่ได้ เสียใจมากกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะเพิ่งแต่งงานได้เพียงปีเศษ ยังไม่มีลูกด้วยกัน เขาเป็นเสาหลักของครอบครัวแต่ก็ต้องมาจากไป ไม่รู้ว่าอนาคตตนจะมีชีวิตอยู่อย่างไร จะโดดเดี่ยวสักแค่ไหน" นางประภาพรรณ กล่าว


ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
web design companies
top web design
professional web design
web design company
graphic web design
ราคา web design
web design flash
web design คือ
web design template
web design layout
เรียน web design
ออกแบบ web design
siam2web
idm crack
webdesign
commerce
thaiebay
ecommerce
งาน parttime
designweb
readyplanet
ฟรี blog
reseller
parttime
oscommerce developer
ออกแบบ web
web สำเร็จรูป
รับ เขียน web
web designing
web designer
web designers

คาด M79 บึ้มพันธมิตร -ตรวจวงจรปิดล่าตัวมือมืด













พันธมิตร



สรุปประเด็นข่าวโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก คมชัดลึก, ไทยรัฐ
 
          เมื่อคืนที่ผ่านมา (15 พ.ย.) ได้เกิดเหตุระเบิดด้านหลังเวทีปราศรัยของกลุ่มพันธมิตรฯ ท้องสนามหลวง ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บจำนวนมาก และในจำนวนนี้มีเด็กชาย 1 คน มีบาดแผลฉกรรจ์ที่ขาซ้าย ทั้งหมดจึงถูกศูนย์กู้ชีพนำส่งโรงพยาบาลวชิรพยาบาล
 
          อย่างไรก็ตาม ความคืบหน้าล่าสุด เช้านี้ (16 พ.ย.) เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุอีกครั้ง เพื่อหาวิถีการขว้างระเบิด พร้อมทั้งประสานขอภาพจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดกรุงเทพมหานคร เพื่อนำมาตรวจสอบหาตัวคนร้าย
 
          โดย พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รักษาราชการแทน ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รรท.ผบ.ตร.)  กล่าวว่า ขณะนี้กองพิสูจน์หลักฐานกำลังเข้าไปตรวจสอบหลักฐาน จะพยายามหาตัวผู้กระทำความผิดให้ได้ และขณะนี้กำลังตรวจสอบว่าในพื้นที่มีกล้องวงจรปิดหรือไม่ ซึ่งยังบอกไม่ได้จะใช้เวลาจับตัวผู้กระทำผิดนานเท่าใด แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังเร่งรัดอยู่ 
 
          เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ที่ผ่านมาคดีในลักษณะนี้ไม่เคยจับตัวคนร้ายได้ พล.ต.อ.ปทีปกล่าวว่า อย่าเพิ่งไปคาดการณ์ กำลังพยายามอยู่ เมื่อถามว่า เป็นการสร้างสถานการณ์หรือไม่ พล.ต.อ.ปทีป กล่าวว่า ปล่อยให้เป็นเรื่องการสืบสวน เมื่อถามอีกว่า ที่ผ่านมาการชุมนุมกลุ่มเสื้อแดงมีการประกาศใช้พ.ร.บ.รักษาความมั่นคงในราช อาณาจักร ทำให้ไม่มีเหตุรุนแรงเกิดขึ้น พล.ต.อ.ปทีปกล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่เกี่ยวกับพ.ร.บ.มั่นคง การประกาศใช้พ.ร.บ.มั่นคงหรือไม่ ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ 
 
          ขณะ ที่ พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) ระบุว่า ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานไปเก็บเศษดินระเบิดจากที่เกิด เหตุมาตรวจสอบเพื่อหาชนิดของวัตถุระเบิด ซึ่งเบื้องต้นคาดว่าจะเป็นชนิด M79 และขณะนี้พอจะทราบวิถีแล้วว่ายิงมาจากจุดใด พร้อมกันนี้ได้สั่งให้เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบอาคารต่าง ๆ ที่อยู่ใกล้เคียงกับท้องสนามหลวงแล้ว แต่ต้องขอเวลาตรวจสอบให้ชัดเจนอีกครั้ง คาดว่าไม่นานจะรู้เบาะแส ส่วนผู้บาดเจ็บทั้งหมด 12 คนนั้น ส่วนใหญ่บาดเจ็บเล็กน้อย โดย 11 คนพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลกลาง และอีก 1 คน พักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลวชิระ ซึ่งขณะนี้ทั้งหมดอาการปลอดภัยแล้ว 
 
          ทั้งนี้ สำหรับผู้บาดเจ็บ 12 รายนั้น ส่วนใหญ่ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ถูกส่งไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลกลาง 11 คน ได้แก่ 1.ด.ช.นันพล ชัยสมศรี อายุ 8 ขวบ,2.ด.ช.พันชนะ มาสมพงษ์ 9 ขวบ,3.นายกฤษดา สันพันงาม 28 ปี,4.นางชนาพันธ์ เชื้อพิทักษ์กุล อายุ 17 ปี,5.นางสาวรจนา ชำมะวัน อายุ 30 ปี,6.นางสาวสุกานดา ชำศิริกุล อายุ 26 ปี,7.นายวิวัฒน์ จันทร์นวล อายุ 19 ปี,8.นายชัยวัฒน์ หวังจงมีชัยสกุล อายุ 53 ปี,9.นายสมพร พีรภาค อายุ 39 ปี,10.นายอรรณพ พานิชยาดิสกุล ไม่ทราบอายุ, 11.นายพรศักดิ์ ชนะโสภามงคล อายุ 33 ปี ส่วนอีก 1 คน ถูกส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลวชิระ ได้แก่ จ.ท.วันชัย รัตนไกรภพ อายุ 55 ปี
 
          ด้าน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์กรณีนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ระบุว่ามีทหารเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องในเหตุการณ์ปาระเบิดหลังเวทีกลุ่ม พันธมิตรฯ สั้น ๆ ว่า "ไม่เกี่ยว ๆ" 
 
          ขณะที่ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก กล่าวปฏิเสธกรณีระบุมีทหารเข้าไปเกี่ยวข้องกับเหตุปาระเบิดการชุมนุมกลุ่ม พันธมิตรฯ ว่า "ไม่มีครับ ๆ"
 
          อย่าง ไรก็ตามมีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนนครบาล 1 และฝ่ายสืบสวน สน.ชนะสงคราม ได้นำตัวผู้ต้องสงสัยเป็นชายสวมเสื้อสีดำ 1 รายมาสอบปากคำแล้วตั้งแต่เวลา 21.20 น.หลังจากเกิดเหตุ จนถึงขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวน โดยชายดังกล่าวให้การวกวนไปมายังจับใจความอะไรไม่ได้ เหมือนมีอะไรปิดบังซ่อนเร้นอยู่ 
 

ขอขอบคุณข้อมูลจาก
 
บริการรับทำเว็บไซต์ บ่อตกปลา
ทำเว็บไซต์ สำนักงานบัญชี
website ร้านอาหาร ภัตตาคาร
รับทำเว็บไซต์ ร้านฮาร์ดแวร์ต่างๆ
รับทำเว็บไซต์ ร้านผ้าม่าน
รับทำเว็บไซต์ สถาบันกวดวิชา
ออกแบบเว็บไซต์ ส่วนตัว
รับทำเว็บไซต์ อบต. อบจ.
เว็บไซต์ บริษัท ที่ต้องติดต่อ กับลูกค้า
รับทำเว็บไซต์ โรงเรียน
รับทำเว็บไซต์ สมัครงาน
รับทำเว็บไซต์ ร้านค้าออนไลน์
ทำเว็บไซต์ โป๊
รับทำเว็บไซต์ สำหรับท่านโดยเฉพาะ
รับทำเว็บ
รับทำเว็บไซต์ บันเทิง
ทำเว็บไซต์ ทีมงาน
รับทำเว็บไซต์ สำหรับผู้หญิง
ทำเว็ปไซต์
รับทำเวปไซต์ จองโรงแรม ที่พัก
รับทำเวป
รับทำเว็บไซต์ จองรถ
บริการรับทำเว็บไซต์ การพนัน
รับทำเว็บไซต์
ทำเว็บ
รับทำเวปไซต์ ราคาถูก
รับทำเวบไซด์ โป้
รับทำเว็บไซด์ คาสิโน
web design
web design school
web design firm
thai web design