เตือนเยาวชนใช้มือถือต่อเข้า"อินเตอร์เน็ต" อย่าให้ข้อมูลส่วนตัว(มติชนออนไลน์)
สบท. เตือนเยาวชนใช้มือถือ หรือเข้าเน็ต อย่าให้ข้อมูลส่วนตัว เพราะผลที่ตามมาอาจร้ายแรงกว่าที่คิด ที่สำคัญต้องศึกษาเรื่องค่าบริการและเทคโนโลยีให้ดี เพราะมีกรณีที่เจอบิลเรียกเก็บค่าโทรเฉียดสามแสนแบบไม่รู้ตัวมาแล้ว
นายประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา ผู้อำนวยการสถาบันคุ้มครองผู้บริโภคในกิจการโทรคมนาคม (สบท.) ภายใต้สำนักงานคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ เปิดเผยว่า ประเด็น ที่น่าห่วงใยสำหรับเด็กและเยาวชนในการใช้บริการโทรคมนาคม และควรระมัดระวังก็คือ การให้ข้อมูลส่วนบุคคล เนื่องจากขณะนี้ในเว็บไซต์หลายแห่งมีการกระตุ้นให้กรอกเลขหมายโทรศัพท์ โดยใช้เทคนิคต่างๆ เช่น ทดสอบดวงคุณวันนี้ ทดสอบไอคิว ทดสอบว่าคุณฉลาดแค่ไหน เมื่อทดสอบแล้วสุดท้ายหากอยากทราบผลให้กรอกเลขหมายโทรศัพท์ แต่พบว่าเมื่อกรอกกลับเป็นการสมัครใช้บริการสินค้า
เมื่อเข้าไปใช้บริการในเว็บต่างๆ แล้วมีช่องให้กรอกเลขหมายโทรศัพท์ อย่าคิดว่าเป็นแค่การร่วมเล่นเกม เพราะพวกนี้จะมีผล เนื่องจากเราไม่ทราบที่มาที่ไป และพบว่า ผู้ใช้บริการหลายคนที่กรอกเลขหมายโทรศัพท์ไปแล้วกลายเป็นการสมัครใช้บริการ สินค้า หรือมีโทรศัพท์มาขายของ หรือถ้าอย่างแรงก็คือ การนำเลขหมายโทรศัพท์ของเราไปหลอกคนอื่นต่อ เมื่อทำอะไรไม่ถูกต้องก็จะทำให้เราติดเข้าร่างแหไปด้วย” ผอ.สบท. กล่าวเตือน
นอกจากนี้การใช้บริการโทรศัพท์มือถือยังต้องศึกษาเรื่องค่าบริการ และระบบเทคโนโลยีของเครื่องโทรศัพท์ที่ใช้ จะได้ไม่เกิดปัญหาตามมา โดยเฉพาะผู้ปกครองที่ซื้อโทรศัพท์มือถือให้บุตรหลานใช้ควรให้คำแนะนำใน เรื่องการใช้บริการด้วย และในกรณีเปลี่ยนเงื่อนไขการใช้งานหรือมีการใช้งานลักษณะพิเศษเพิ่มเติม ควรมีการสอบถามข้อมูลจากศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ให้ละเอียดและชัดเจน
"มีกรณีของลูกเดินทางไปเยี่ยมพ่อที่ต่างประเทศ แล้วลูกนำโทรศัพท์มือถือไปใช้ด้วย พอกลับมาเมืองไทยปรากฏว่า ถูกคิดค่าบริการไปถึง 250,000 บาท เนื่องจากค่าบริการข้ามแดนอัตโนมัติจะแพงกว่าค่าบริการในประเทศอย่างมาก อีกทั้งแค่รับสายก็เสียเงิน หรือแม้ไม่รับสายมีสายโทรเข้าก็เสียเงินเช่นกัน ที่สำคัญคือ ในผู้ให้บริการบางรายจะไม่มีการจำกัดวงเงิน หรือระบบเครดิตลิมิตสำหรับการใช้บริการในต่างประเทศ ผู้ใช้บริการจึงต้องตรวจสอบเรื่องนี้ให้ดี หรือสอบถามถึงโปรโมชั่นที่เหมาะสม อย่างบางบริษัทมีโปรโมชั่นไปญี่ปุ่น คิดค่าโทรอัตราถูก เป็นต้น" ผอ.สบท.กล่าว
นายประวิทย์กล่าวว่า สำหรับกรณีของเทคโนโลยี ซึ่งเด็กและเยาวชนมักจะชอบเทคโนโลยีใหม่ๆ ผู้ปกครองควรศึกษาและให้คำแนะนำบุตรหลานเมื่อซื้อมาแล้วต้องทราบว่าตรงไหนจะ เป็นช่องโหว่หรือเป็นจุดที่ถ้าไม่ระมัดระวังแล้วจะทำให้ผู้ใช้บริการเดือด ร้อน หากรักจะใช้เทคโนโลยียุคใหม่ต้องเท่าทันด้วย ไม่ว่าจะเป็นตัว ฮาร์ดแวร์หรือซอฟแวร์ ทั้งหลาย เพราะซอฟแวร์บางตัวก็ส่งผลให้เสียค่าบริการอัตโนมัติ ขณะที่ฮาร์ดแวร์บางตัวถ้าไม่มีระบบป้องกันก็อาจเปิดช่องให้ถูกล้วงข้อมูล ส่วนตัวได้ด้วย
ศึกษาและเรียนรู้การใช้อินเทอร์เน็ตอย่างถูกวิธีได้ที่

ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น